ไอเรื้อรัง (Chronic Cough) (1)

   "การไอ" ย่อมสร้างความรำคาญให้ใครหลาย ๆ คน แต่บางคนก็คิดว่าแค่ไอ ปล่อยไว้เดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งหากทิ้งไว้นานวันแล้วยังมีอาการไออยู่อย่างต่อเนื่องเรื้อรังย่อมไม่ดีแน่ เพราะนั่นย่อมหมายถึงสัญญาณของการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมายได้

ชนิดของอาการไอ

   1. ไอเฉียบพลัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไซนัสอักเสบ คออักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม มักจะดีขึ้นภายใน 3 สัปดาห์ ในเด็กต้องระวังการสำลักแล้วไอ อาจมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในหลอดลม ถ้าสัมผัสกับสารระคายเคือง เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ กลิ่น สเปรย์ แก๊ส มลพิษทางอากาศ ในปัจจุบันมีฝุ่น PM 2.5 สูงทำให้ไอได้

   2. ไอกึ่งเฉียบพลัน คือ มีระยะเวลาของอาการไอนานกว่า 3 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 8 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มักเป็นเกิดการไอ จากหลอดลมมีความไวต่อการกระตุ้น หลังจากมีการติดเชื้อทางเดินหายใจ

   3. ไอเรื้อรัง คือ มีระยะเวลาของอาการไอมากกว่า 8 สัปดาห์ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีน้ำมูกไหลลงคอ ก็จะกระแอมไอ โรคกรดไหลย้อน การสูบบุหรี่ และที่สำคัญถ้าหาสาเหตุอื่น ๆ ไม่พบ ควรซักประวัติยาที่รับประทาน ที่มีผลทำให้ไอเรื้อรังได้ เช่น ยาลดความดันเลือดบางชนิด

การไอมีผลต่อสุขภาพ

• ปอด
   - อาจมีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ มีการอักเสบของหลอดลมมากขึ้น บวมมากขึ้น มีการฉีกขาดเกิดขึ้น
   - ปอดแตกและมีลมรั่วเข้าไปในช่องเยื่อบุหุ้มปอด (Pneumothorax) อันเป็นผลจาก Barotrauma ที่เกิดกับปอดขณะไอ

• สมอง
   - มีอาการหมดสติ (Cough Syncope)

• ทรวงอก
   - เจ็บกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกซี่โครงหัก

• การแทรกซ้อนอื่น ๆ
   - ปัสสาวะราด (Urine Incontinence)
   - เสียงแหบ
   - ไส้เลื่อน
   - ปวดหลัง
   - พักผ่อนไม่เพียงพอในผู้ที่มีอาการไอมากช่วงกลางคืน

ที่มา
www.phyathai.com
www.rama.mahidol.ac.th
www.bangkokhospital.com

เครดิตรูปภาพ
www.sanook.com
www.pobpad.com